Friday, August 7, 2015

การปลูกผักไฮโดร บนต้นกล้วย

หลังจากที่ห่างหายไปนาน เลยกลับมาอัพเดทสักหน่อยครับ ไปลองปลูกเมล่อนญี่ปุ่นมา แต่ปรากฎว่าไม่ประสบผลสำเร็จเนื่องจากเหตุหลายประการครับ เจอทั้งหนอน เพลี้ย โรงเรือนพัง นับว่าเป็นความประมาทของตัวเองโดยแท้ ใครจะลองปลูกเมล่อน ก็ให้ระวังพวกผีเสื้อกลางคืน และมดไว้ด้วยนะครับ แค่ตัวเดียว เหมาทั้งโรงเรือนเลย

เอาล่ะเข้าเรื่องดีกว่า!!! หลังจากผมที่ไปเจอในเว็บว่าต้นกล้วยสามารถปลูกผักไฮโดรได้ ก็เลยทดลองมาปลูกมั่ง พอดีมีต้นกล้าผักเหลือจาก การลงแปลง จะทิ้งก็เสียดาย พอดีต้นกล้วยที่บ้าน ออกลูกได้เวลาเก็บพอดี ทุกทีตัดกล้วยเสร็จก็ต้องตัดต้นทิ้ง เราเลยเอามาปลูกผักซะเลย ก่อนจะตัดทิ้งให้มันทำประโยชน์เพิ่มอีกหน่อยเหอะ

อันดับแรกก็เตรียมอุปกรณ์กันก่อน
1. ต้นกล้วยที่ตัดผลกล้วยเรียบร้อยแล้ว
2. มีปลายแหลม
3. ต้นกล้าผัก
4. ขุยมะพร้าว

เอารูปมาให้ดูก่อน พอดีว่าไม่มีภาพตอนเจาะ กับต้นกล้านะครับ มีตอนใส่เรียบร้อยแล้วนะครับ



อันดับแรกก็ให้ปรับผิวต้นกล้วยเสียก่อน กาบแก่ๆ ก็ดึงทิ้ง ใบก็ลิดออกพอให้แสงแดดส่องถึงต้นกล้าผัก หลังจากนั้น ให้ใช้มีปลายแหลมเจาะเข้าไปขนาดประมาณ 1 x 1 นิ้ว ในลักษณะเฉียงลง แล้วก็แคะๆ พอให้เป็นหลุม หลังจากนั้นก็ให้เอาขุยมะพร้าวพร้อมกับต้นกล้ายัดใส่เข้าไปให้เต็มช่องแค่นี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยครับ




ภาพอันนี้หลังจากปลูกได้ ประมาณ 1 สัปดาห์ครับ ใบจริงเริ่มออกแล้ว เดี๋ยวถ้าใกล้เก็บเกี่ยวเมื่อไหร่ผมจะมาอัพเดทภาพให้อีกทีนะครับ ส่วนน้ำก็รดแค่ต้นกล้วยครับ ส่วนต้นผักจะใช้น้ำเลี้ยงจากต้นกล้วยเองครับ

สุดท้ายแล้วข้อกำหนดของการปลูกผักบนต้นกล้วยนั้น ชนิดของผักต้องเป็นผักอายุสั้น ไม่เกิน 40-50 วัน ถ้ายาวกว่านี้กลัวว่าต้นกล้วยจะตายเสียก่อนครับ วิธีปลูกผักบนต้นกล้วยก็ช่วยเพิ่มมูลค่าต้นกล้วยไปอีกหน่อยก่อนจะตัดทิ้งให้เป็นปุ๋ย ก็ให้มันทำประโยชน์เพิ่มขึ้นอีกนิดนึงครับ



Monday, January 19, 2015

ตรุษจีนนี้ ทำผัก ไฮโดรโปนิค เอามาทำสุกี้กินกันทั้งบ้านกันเถอะ!!

เฉลิมฉลองเทศกาลมงคลนี้ด้วยการทานข้าวพร้อมหน้า และช็อปปิ้งสินค้าลดราคาจากลาซาด้า 27 มกรานี้!

หากคุณกำลังมองหาของขวัญที่จะนำไปมอบให้กับญาติผู้ใหญ่ เพื่อนๆ หลานๆ ในเทศกาลแห่งความสุข เทศกาลมงคลนี้ กับมหกรรมลดราคาครั้งยิ่งใหญ่ เทศกาลช็อปปิ้งออนไลน์กับลาซาด้า ที่ยกขบวนสินค้ากว่าพันรายการ นำมาลดราคาพิเศษสุดสำหรับทุกคน และมีบริการส่งถึงหน้าบ้าน เก็บเงินปลายทาง ลดราคากว่า 50% ในวันที่ 27 มกราคมนี้
โดยใครที่พลาดมหกรรมช็อปปิ้งออนไลน์คราวที่แล้ว หรืองาน 1212 ไป ไม่ต้องเสียใจเพราะว่าเรากลับมาอีกครั้งพร้อมกับสินค้าลดราคาที่มากกว่าเดิม! เพราะคราวนี้ลาซาด้าหั่นราคาสินค้าทุกหมวดหมู่ เพื่อมอบความสุขให้แก่ลูกค้าลาซาด้าทุกท่าน นำของขวัญไปมอบให้กับญาติผู้ใหญ่ในราคาพิเศษ ถูกใจผู้ให้ และผู้รับแน่นอน
และสินค้าที่ทางลาซาด้านำมาลดราคามีทั้งร้านค้าของลาซาด้าโดยตรง และ ร้านค้าพันธมิตรชั้นนำ ทุกหมวดหมู่ในราคาสุดพิเศษ อาทิ สินค้าอิเลคทรอนิคส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้าไอที สินค้าสุขภาพและความงาม มากกว่าพันรายการ พิเศษสำหรับคุณ ลดกระหน่ำมากขึ้นด้วย voucher จากลาซาด้า ที่ให้ราคาพิเศษมากกว่าเดิม
แต่คงไม่มีใครนึกถึงว่าการรับประทานอาหารพร้อมหน้าในเทศกาลตรุษจีนนั้นเป็นเรื่องสำคัญ แต่จริงๆ แล้วมีความสำคัญมากเพราะทุกคนจะได้ทานข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากัน โดยเฉพาะผู้สูงอายุ อาม่า อากง ส่วนใหญ่ชอบทานสุกี้ ลองซื้อหม้อสุกี้มาทำอาหารรับประทานกัน เพื่อความสนิทสนมในครอบครัวมากยิ่งขึ้น เพราะสุกี้หม้อนั้นเป็นอาหารที่ได้รับความนิยมในหมู่ผู้ใหญ่มาก สังเกตได้จากที่ร้านอาหารประเภทนี้จะได้รับความนิยมในช่วงเทศกาล แต่ก็ต้องรอคิวนาน ผู้ใหญ่อาจจะปวดเมื่อย หรือรู้สึกไม่โอเคกับการนั่งรอนานๆ การซื้อหม้อสุกี้นั้นเป็นการลงทุนที่น้อยนิดแต่ได้รับประโยชน์มาก เพื่อความสะดวกในการรับประทานอาหาร และได้รับประทานอาหารพร้อมหน้าพร้อมตากัน

แน่นอนว่าหากใครกำลังมองหาหม้อสุกี้อยู่ ทางร้านค้าออนไลน์ ลาซาด้า นั้นก็มีจำหน่ายในราคาที่ถูกมาก และมีบริการส่งถึงหน้าบ้าน เก็บเงินปลายทาง ไม่ต้องยกให้เมื่อย และรับประกันว่าได้สินค้าราคาถูก มีคุณภาพแน่นอน

Tuesday, January 6, 2015

การทำแปลงปลูกผัก แบบน้ำนิ่ง ตอนที่ 3

   เมื่อเราขึ้นรูปแปลงเรียบร้อยแล้ว เจาะรูเสร็จ ต่อมาก็ต้องรองพื้นด้วยพลาสติก PVC ครับ เสียดายผมไม่ได้ถ่ายรูปตอนปูมา แต่ปูไม่ยากครับ ให้เอากระบะที่เราทำเสร็จ ไปลองวัดก่อนค่อยตัด ให้เหลือพื้นที่ขอบเอาไว้พับด้วยนะครับ จากนั้นก็เอาเทปกาวหนังไก่ ติดๆๆๆ ได้ดังภาพครับ





    อันนี้เมื่อปูพื้นพลาสติกขึ้นเสร็จแล้ว

ภาพถ่าย

ภาพถ่าย

ภาพถ่าย

     ถ้าเราไม่ต้องการทำแปลงก็หาถาดหรือกล่องอะไรก็ได้ครับ สูงประมาณ 3-4 นิ้ว อย่างแปลงสุดท้าย ผมเอามาจากลิ้นชักพลาสติกเก่าๆ ที่ไม่ได้ใช้มาทำก็ปลูกได้ครับ แล้วก็หาอะไรมายกให้สูงๆ หน่อย จะได้ไม่ต้องก้มให้เมื่อยครับ




การทำแปลงปลูกผัก แบบน้ำนิ่ง ตอนที่ 2

ขั้นตอนต่อไป ก็ทำแปลงผักครับ อุปกรณ์ที่ใช้ก็มี

     1.  โฟมเกรด A หนา 1 นิ้ว 3 แผ่น (ถ้าบางกว่านี้อาจจะแตกได้)
     2.  กาวลาเท็กซ์ 1 ขวด
     3.  ไม้จิ้มฟัน หรือ ไม้เสียบลูกชิ้น
     4.  เทปกาว
     5.  คัดเตอร์
   
   
ภาพถ่าย

ภาพถ่าย

    ตัดโฟม กว้างประมาณ 3 หรือ 4 นิ้ว 3 แผ่น เอาไว้ทำสันขอบ (ในภาพผมตัดเกินไปอันนึง) จากนั้นก็ทากาวสันขอบ แล้วก็ประกบกับแผ่นโฟมที่เอาไว้เป็นฐาน หลังจากนั้นเอาไม้จิ้มฟัน เสียบเอียงๆ เพื่อไม่ให้ขอบขยับ แล้วทิ้งไว้กาวแห้ง สำหรับผมทิ้งไว้ 1 วันเลยครับ

ภาพถ่าย

ภาพถ่าย

     ส่วนแผ่นบนที่เอาไว้ปิด ก็มาตีตารางสำหรับจะเอาไว้เจาะรู ใส่ถ้วยปลูก แต่ละช่องห่างกันประมาณ 15 เซนติเมตร

ภาพถ่าย

      ต่อไปก็เจาะๆๆๆ เครื่องมือสำหรับการเจาะเดี๋ยวผมจะโพสวิธีการทำทีหลังนะครับ หรือใครใจร้อนลองไปค้นหาดูในเว็บพันทิปก็ได้ ผมก็เอาวิธีการทำมาจากในนั้นแหละครับ

ภาพถ่าย



ภาพถ่าย

ภาพถ่าย

ภาพถ่าย

ภาพถ่าย

การทำแปลงปลูกผัก แบบน้ำนิ่ง ตอนที่ 1

     การปลูกผักแบบน้ำนิ่ง มีข้อดีคือ ง่ายสะดวก อุปกรณ์ไม่ต้องมาก ไม่ต้องใช้ไฟ แต่ข้อเสียของมันก็คือ ต้องคอยหมั่นเช็คน้ำอยู่เสมอ ทั้งระดับน้ำ และความเข้มข้นของธาตุอาหาร ซึ่งในช่วงแรกๆ ระดับน้ำอาจจะไม่ค่อยลดลงมากเท่าไหร่ แต่พอเข้าช่วงผักโตต้องคอยหมั่นเช็คหน่อยครับ ช่วงแรกๆ ที่หัดปลูก เผลอไม่ได้ดูระดับน้ำวันเดียว น้ำแห้งหมด ผักเกือบตายยกแปลง
         
   อ่ะเข้าเรื่องกันดีกว่า แปลงผักที่ทำนี้ ผมเอาขนาดของโฟมที่ซื้อมาเป็นตัวกำหนดขนาดของแปลง จะได้ง่าย ไม่ต้องตัดชิ้นเยอะ เพราะว่าโฟมหนามันจะยากครับ เศษโฟมก็จะฟุ้ง เก็บกวาดยาก เลยพยายามจะตัดโฟมให้น้อยที่สุด หรือถ้ามันใหญ่ไปใครจะดับแปลงแบบไหนก็ได้ครับ

     ขั้นตอนแรกคือ ทำโครงรับแปลงปลูกผัก ซึ่งถ้าใครไม่มีความถนัดด้านช่าง ก็หาโต๊ะหรือวางกับพื้นก็ได้ครับ แต่ที่บ้านหอยทากเยอะ เลยป้องกันไว้สักหน่อย อีกอย่างจะได้ไม่ต้องก้มให้เมื่อย 555

ภาพถ่าย

ภาพถ่าย

   ผมซื้อไม้จ๊อยหรือไม้โครงมาทำ มัดนึงจะมีประมาณ 10 เล่ม ซื้อมาสองมัด ได้ประมาณ สองแปลง อาจจะดูบอบบางไปหน่อย แต่ก็แข็งแรงดีครับ

ภาพถ่าย

ภาพถ่าย

    ในภาพอาจจะดูไม่ค่อยชัดนะครับ ก็วัดเอาจากขนาดของโฟมก็ได้

 



Saturday, December 27, 2014

การเพาะเมล็ด

     การเพาะเมล็ดนั้น ก็ควรจะนำเมล็ดมาแช่น้ำก่อนจะปลูก (ผักสลัดอุณหภูมิประมาณ 18-20 องศา ผักไทยก็ประมาณ 25-30 องศา) แช่ประมาณ 3-4 ชั่วโมง ก่อนนำลงไปเพาะครับ


    มาเตรียมอุปกรณ์ในการการเพาะเมล็ดกันเลย ก็หาอุปกรณ์ใกล้ตัวครับ คือ
     1. ทิชชู  
     2. ภาชนะปลูกที่มีฝาปิด 

   พอหาอุปกรณ์สำหรับปลูกได้เรียบร้อย จากนั้นก็ทำการพื้นรองด้วยทิชชูเสียก่อน หลังจากนั้นก็ใส่เมล็ดที่ต้องการปลูกลงไป ถ้าฤดูก็ควรเอาทิชชูทับอีกชั้นเพื่อรักษาความชื้นครับ  แต่พอดีผมปลูกหน้าหนาว ก็ใส่เมล็ดลงไปเสร็จแล้วก็พรมน้ำพอชุ่มๆ  ส่วนภาชนะผมเอากล่องเกี๊ยวจาก 7-11 มาใส่ เพราะว่าเมล็ดผักสลัดเล็กครับ หยับมือเดียวก็ได้หลายต้นแล้ว แรกๆ ใส่ลงไปเยอะเพราะว่ากลัวบางเมล็ดไม่งอก แต่พอรากงอกก็ไม่พอใส่แปลงปลูก สุดท้ายก็จำเป็นต้องทิ้งครับ คัดที่รากงอกยาวๆ ไว้ก่อน


     อันนี้หลังจากเพาะได้ประมาณ 2 วันครับ สังเกตุจะเห็นรากขาวๆ จากเมล็ด อันนี้สามารถนำไปเพาะต่อกับฟองน้ำที่ต้องเตรียมไว้ได้เลยครับ 
     

     พอนำเมล็ดใส่ในฟองน้ำปลูกเสร็จก็ใส่น้ำธรรมดาไปก่อนครับ ประมาณครึ่งก้อนฟองน้ำ พยายามรักษาระดับน้ำไว้ประมาณ 7 วัน ครับ เพราะหลังจากนี้เราต้องเปลียนน้ำ แล้วมาใส่ปุ๋ยน้ำ ระยะนี้สังเกตุว่าจะเริ่มมีใบเลี้ยงออกมา 2 ใบครับ 

Monday, December 22, 2014

เครื่องมือตวง วัด สำหรับปลูกผักไฮโดรโปรนิกส์

     อุปกรณ์ตวง วัด ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นอีกอย่างนึงสำหรับการปลูกผักไฮโดรโปรนิกส์ครับ เพราะว่าการปลูกผักไฮโดรโปรนิกส์นั้น เค้าจะมีการกำหนดค่าอัตราส่วนสำหรับธาตุอาหารที่เหมาะสมกับผักแต่ละชนิดมาให้อยู่แล้ว และผักแต่ละชนิดมีความต้องการปริมาณธาตุอาหารไม่เหมือนกัน เช่น ผักไทยกับผัดสลัด ถ้าพวกผักไทย จะต้องใช้ปริมาณธาตุอาหารที่สูงกว่าผักสลัด ถ้าเราให้ปริมาณธาตุอาหาร ไม่ถูกต้อง อาจจะทำให้ผักเจริญเติบโตได้ไม่เต็มที่  และสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุครับ ดังนั้น ถ้าเราจะปลูกผักอะไร ควรจะต้องศึกษาสักหน่อยนะครับ ว่าผักที่เราจะปลูกนั้น ต้องมีค่าธาตุอาหารที่ผสมอยู่ในน้ำปริมาณเท่าไหร่
    ส่วนน้ำ ค่าความเป็นกรด ด่างของน้ำนั้น ก็มีผลอยู่เหมือนกันครับ ผักจะดูดซึมได้ดี ก็ต่อเมื่อน้ำมีสภาวะเป็นกลางครับ ก็ประมาณ 6-7 pH และอุณภูมิของน้ำก็มีผลเช่นกัน ไม่ควรจะร้อนจนเกินไปครับ ก็พยายามเอาถังน้ำไว้ที่ร่มๆ หน่อยครับ

อุปกรณ์วัดปริมาณน้ำ 

    ปกติแล้ว เวลาซื้อปุ๋ยมาเค้าจะกำหนดอัตราส่วนในการผสมไว้ข้างขวดครับ หรือถ้าซื้อแบบแห้งมาผสม ส่วนมากก็จะมีสัดส่วนต่อน้ำ 1 ลิตร ดังนั้นต้องคำนวนให้ดีๆ สำหรับคนไม่มีอุปกรณ์สำหรับวัดค่า EC ครับ เช่น อัตราส่วน 1:100 ซีซี หมายความว่า ปุ๋ย A B 10 ซีซี ต่อ น้ำ 1 ลิตร (1,000 ซีซี เท่ากับ 1 ลิตร) เพราะว่าถ้าปุ๋ยมากไป ผักสลัดจะขม น้อยไปใบจะซีดได้ ซึ่งทั้งสองแบบนี้อาจจะทำให้ผักตายได้ครับ ดังนั้นสำคัญมากต้องกะเกณฑ์ให้ดีๆ ส่วนพวกที่มีเครื่องมือวัดค่า EC ก็จะไม่มีปัญหาสักเท่าไหร่ ดังนั้น เครื่องวัดปริมาณน้ำจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างแรกที่ต้องมีครับ


     จากภาพเป็นถ้วยตวงสิ่งที่สำคัญมากครับ ไว้สำหรับวัดปริมาณน้ำ เพื่อเอาไว้ผสมปุ๋ย A B หรือถ้าใครไม่มีก็หาเอาขวดน้ำก็ได้ครับ เค้าจะมีปริมาตรอยู่ข้างขวด เราก็คำนวนอัตราส่วนสำหรับใส่ปุ๋ยลงไป

เครื่องวัดค่าความเป็นกรด-ด่างของน้ำ pH และเครื่องวัดค่า EC

     เครื่องมือวัดทั้งสองอันนี้มีความจำเป็นอยู่พอสมควรครับ ถ้ามีเงินพอจะซื้อได้ก็ซื้อไว้ใช้ดีกว่า อย่างน้อยเครื่องวัดค่า EC สักตัวก็พอแล้วครับ ผมซื้อทั้งสองอันเลย รวมกันแล้ว ไม่เกิน 3,000 บาท ถ้าไม่มีก็หาซื้อกระดาษที่วัดค่าความเป็นกรด-ด่าง มาใช้ก็ดีครับ เพราะส่วนมาก น้ำประปาบ้านเรา จะมีค่าความเป็นด่างอยู่ (ตามมาตรฐาน เข้าใกล้ 0 มีภาวะเป็นกรด และ มากกว่า 6 จะเป็นด่าง) แต่ถ้าไม่มีจริงๆ ก็คำนวนสัดส่วนปุ๋ย AB กับน้ำเอาก็แล้วกันนะครับ

     แถมท้ายนิดนึง เครื่องวัดค่า EC สามารถเอาไว้วัดสิ่งที่เจือปนในน้ำได้ครับ ถ้าใครซื้อแล้วสามารถเอามาลองเล่นใช้วัดสิ่งเจือปนในน้ำขวด แต่ละยี่ห้อ หรือจากเครื่องกรองน้ำที่บ้านดู เพราะว่าน้ำแต่ละแหล่งที่เค้านำมาผลิตน้ำดื่มนั้น ระบบกรองมักจะกรองได้ไม่หมด และสิ่งที่เจือปนในน้ำ อาจจะมีแร่ธาตุทั้งดีและไม่ดีครับ